ในส่วนที่ 1
หากลูกค้ามีหมายเลข account ให้ใส่ หมายเลข ลงไปที่ช่อง Payer Account No. (ในส่วนของลูกค้าที่ต้องการจ่ายเงินสด ไม่จำเป็นต้องใส่หมาย เลข Account)
ในส่วนที่ 2
กรอกชื่อ-นามสกุล ผู้ส่ง, ที่อยู่ และเบอร์โทร
ในส่วนที่ 3
กรอกชื่อ-นามสกุล ของผู้รับ ที่อยู่, ประเทศที่ส่ง, รหัสไปรษณีย์ และที่สำคัญที่สุด เบอร์โทรของผู้รับ
ในส่วนที่ 4
กรอกจำนวนแพ็คเกจ และน้ำหนัก
ในส่วนที่ 5
กรอกคำอธิบายสินค้าที่ส่งออก
ในส่วนที่ 6
กรอกมูลค่าโดยรวมของสินค้า สินค้าประเภทเอกสาร ไม่จำเป็นต้องระบุมูลค่าของสินค้าลงไป แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ส่งต้องการจะระบุหรือไม่
ในส่วนที่ 7
เซ็นชื่อผู้ส่ง พร้อมลงวันที่ ที่จัดส่ง
**ส่วนในช่องที่ไม่ได้อธิบายไว้ ผู้ส่งไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลใดๆลงไป**
ผู้ส่งสามารถนำกล่องจากทางบริษัทไปแพ็คสินค้าเองที่บ้าน หรือ ถ้าไม่สะดวกสามารถนำสินค้าของท่านมาแพ็คลงกล่องที่บริษัทของเราได้เลย สำหรับลูกค้าที่นำสินค้าไปแพ็คเองที่บ้านไม่ควรปิดผนึกกล่อง เนื่องจาก สินค้าที่จะนำส่งออกทุกชิ้น ทางเจ้าหน้าที่จะทำการขอตรวจสอบก่อนส่งทุกครั้ง
การคิดค่าขนส่งจะเปรียบเทียบระหว่างน้ำหนักจริงและปริมาตรของกล่อง แล้วยึดค่าที่มากกว่านำมาคิดเป็นค่าขนส่ง
น้ำหนักตามปริมาตรสามารถคำนวณได้จาก
กว้าง x ยาว x สูง (เซนติเมตร) ÷ 5000 = ผลลัทธ์ น้ำหนักปริมาตร (กิโลกรัม)
ยกตัวอย่างเช่น
20 x 15 x 25 =7500 ÷ 5000 = 1.5 กิโลกรัม
ถ้าหากปริมาตรเท่ากับ 1.5 กิโลกรัม | แต่น้ำหนักจริงเท่ากับ 5 กิโลกรัม จะใช้น้ำหนักจริงในการคิดค่าขนส่ง.
ถ้าหากปริมาตรเท่ากับ 5 กิโลกรัม | แต่น้ำหนักจริงเท่ากับ 1.5 กิโลกรัม จะใช้ปริมาตรในการคิดค่าขนส่ง.
ดังนั้นการแพ็คสินค้าทุกครั้ง ลูกค้าจะต้องคำนึงถึงขนาดของบรรจุภัณฑ์ที่จะนำส่ง เพราะจะมีผลต่อการคิดราคาค่าส่งออกด้วย
ในส่วนที่ 1 | หากลูกค้ามีหมายเลข account ให้ใส่ หมายเลข ลงไปที่ช่อง Payer Account No. (ในส่วนของลูกค้าที่ต้องการจ่ายเงินสด ไม่จำเป็นต้องใส่หมาย เลข Account)
ในส่วนที่ 2 | กรอกชื่อ-นามสกุล ของผู้ส่ง ที่อยู่ และเบอร์โทร
ในส่วนที่ 3 | กรอกชื่อ-นามสกุล ของผู้รับ ที่อยู่, ประเทศที่ส่ง, รหัสไปรษณีย์ และที่สำคัญ เบอร์โทรของผู้รับ
ในส่วนที่ 4 | กรอกจำนวนแพ็คเกจ และน้ำหนัก
ในส่วนที่ 5 | กรอกคำอธิบายสินค้าที่ส่งออก
ในส่วนที่ 6 | กรอกมูลค่าโดยรวมของสินค้า
ในส่วนที่ 7 | เซ็นชื่อ พร้อมลงวันที่ ที่จัดส่ง
ใส่หมายเลข tracking number ไว้หัวมุมด้านขวามือ พร้อม วันที่ ที่จัดส่ง
ใส่ชื่อที่อยู่ของผู้ส่ง เบอร์โทร
ใส่ชื่อที่อยู่ของผู้รับ เบอร์โทร
ใส่รายละเอียดสินค้าทั้งหมดที่ส่งออก พร้อมใส่จำนวนชิ้น ,ราคาต่อชิ้น และราคารวมของสินค้า ทั้งหมด พร้อมระบุ สกุลเงิน
เซ็นชื่อผู้ส่ง ตรงท้ายของ Invoice
หมายเหตุ | มูลค่าของสินค้าที่ใส่ลงไปใน INVOICE มีผลต่อการพิจารณาค่าภาษีนำเข้าที่กรมศุลกากร ประเทศปลายทาง
• สิ่งมีชีวิตทุกชนิด
• แร่ใยหิน
• ทองคำแท่งหรือเงินแท่ง
• เงินสด
• อาวุธปืน ส่วนประกอบส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนรวมทั้งลูกกระสุนและดินระเบิด
• ขนสัตว์
• วัตถุอันตรายหรือที่ติดไฟได้ง่าย (ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อกำหนดของ IATA)
• ศพมนุษย์ รวมทั้งเถ้าอัฐิ
• สารเสพติดทุกชนิด
• ของเหลวไวไฟ
• สารกระตุ้นร่างการทุกชนิด
• ของเหลวประเภทแอลกอฮอล์ หรือ ของเหลวที่มีส่วนผสม ที่มีแอลกอฮอล์
1.หากท่านต้องการส่งสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น สิ่งของที่มีมูลค่าสูง หรือสิ่งของ ที่แตกหักหรือชำรุดง่าย ท่านสามารถทำประกันเพิ่มเติมได้ โดยซื้อเพิ่มในมูลค่า 2% ของราคาสินค้าจริง
2.หากเกิดค่าภาษีที่ประเทศผู้รับปลายทาง ผู้รับปลายทางจะต้องเป็นผู้เสียภาษีขาเข้านั้นเอง โดยพัสดุจะต้องผ่านการตรวจเช็ค ซึ่งจะเป็นแบบการสุ่มตรวจโดยศุลกากรของประเทศปลายทาง อัตราภาษีที่จะถูกเรียกเก็บขึ้นอยู่กับอัตราค่าภาษีขาเข้าของแต่ละประเทศ
3.เมื่อลูกค้าส่งพัสดุประเภท เสื้อผ้า, สิ่งที่ทำขึ้นมาจากผ้าทุกชนิดเกิน 5 กิโลกรัมไปยังประเทศ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปน, ลักเซมเบิร์ก และ หมู่เกาะคานารี จำเป็นต้องทำ CO FORM (CERTIFICATES OF ORIGIN)
4.ค่าบริการส่งออกของทางเรา รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และ น้ำมันเชื้อเพลิงทางอากาศเรียบร้อยแล้ว
5. หากพื้นที่ปลายทาง ที่ลูกค้าส่งเอกสาร หรือ พัสดุ ไปนั้น อยู่นอกเหนือเขตพื้นที่บริการของ DHL (REMOTE AREA) จะมีการชาร์ต ค่าบริการเพิ่ม โปรดติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่
6. หากสินค้าที่มีขนาดเกิน คือด้านใดด้านหนึ่งเกิน 120 ซม. คิดค่าบริการเพิ่มโปรดติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่
7. หากสินค้าที่หนักเกิน 70 กิโลกรัม/กล่อง คิดค่าบริการเพิ่ม โปรดติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่
สงวนลิขสิทธิ์ © 2567-2568 Siam Parcel Service Company Limited